booking

Booking.com

วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2558

กรุงเทพฯมีดี 233 ปีรัตนโกสินทร์


© Kom Chad luek กรุงเทพฯมีดี 233 ปีรัตนโกสินทร์

วันนี้ เทศกาลน้ำคงชุ่มฉ่ำทั่วเมืองไทยแล้ว แต่สำหรับกรุงเทพมหานคร สงกรานต์คือช่วงเวลาที่เมืองหลวงแห่งนี้สงบงามดั่ง "อยุธยายศล่มแล้ว ลอยสวรรค์ลงฤา" จริงๆ จะไปไหนมาไหนก็ปลอดโปร่งโล่งสบาย ไม่มีรถติดให้หงุดหงิดใจ ชาวต่างจังหวัดก็จะอาศัยช่วงนี้แหละ เข้ามาชมความศิวิไลซ์ของกรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ฯ โดยเฉพาะปีนี้ เป็นปีมหามงคล ฉลองพระชนมายุ 5 รอบ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และฉลอง 233 ปี กรุงรัตนโกสินทร์อีกด้วย พื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ส่วนที่เรียกว่า "เกาะรัตนโกสินทร์" จึงคึกคักเป็นพิเศษ ด้วยสีสันงานด้านศิลปวัฒนธรรมที่หลายหน่วยงานจัดขึ้น
ท่าน ใดมากราบสักการะพระแก้วมรกต และชมพระบรมมหาราชวังแล้ว แนะนำให้ไปชม "กำแพงศิลปะเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ฉลองพระชนมายุ 5 รอบ" ที่รั้วชั่วคราวของ สวนสันติพร ถนนราชดำเนินใน หรือในอดีตคือสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลนั่นเอง
ตลอด แนวยาวของรั้วกว่า 200 เมตร มีภาพวาดสีน้ำมันและภาพกราฟิตี้ ผลงานนิสิตนักศึกษาจาก 30 สถาบันทั่วประเทศ มาแสดงศักยภาพในทางสร้างสรรค์อย่างน่าชื่นชมที่สุด ลบคำปรามาสที่ว่า คนหนุ่มสาวยุคนี้ "ดีแต่ก้มหน้าดูจอ เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ" ได้อย่างยอดเยี่ยม เนื้อหาภาพสะท้อนสังคมไทยหลากหลาย อาทิ กระแสความคลั่งไคล้ภาพจิตรกรรมฝาผนัง "กระซิบรักบันลือโลก" (ปู่ม่านย่าม่าน) ที่วิหารวัดภูมินทร์ จ.น่าน ทำให้นักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จำลองภาพกระซิบรักบันลือโลก มากระซิบกันไกลถึงที่กำแพงศิลปะแห่งนี้ด้วย ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี คือ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กรุงเทพมหานคร มหาวิทยาลัยศิลปากร ธนาคารออมสิน ฯลฯ ที่ช่วยกันทำโครงการดีๆ เช่นนี้
จาก นั้น ชวนท่านข้ามฝั่งมายังท้องสนามหลวงด้านทิศเหนือสุด มีอนุสาวรีย์แห่งหนึ่งตั้งอยู่บนเกาะรูปสามเหลี่ยม เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ใกล้โรงละครแห่งชาติ คือ อนุสาวรีย์ทหารอาสาสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งมักถูกมองข้ามไป ทั้งๆ ที่มีความน่าสนใจในทางศิลปะ เพราะอนุสาวรีย์ขนาดเล็กที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเพื่อบรรจุอัฐิของทหารอาสาสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี พ.ศ.2462 นี้ ออกแบบโดยนายช่างใหญ่แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ หลังจากออกแบบพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร ถวายล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 เป็นงานชิ้นเอก (มาสเตอร์พีซ) แล้ว ท่านได้ทรงออกแบบอนุสาวรีย์ทหารอาสา โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเจดีย์ศิลปะศรีวิชัย ที่เรียกว่า "จันทิ" ซึ่งมีอยู่มากบนเกาะชวา อินโดนีเซีย รวมถึงพระบรมธาตุไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ที่จัดเป็นศิลปสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัยเช่นเดียวกัน
โครง สร้างของอนุสาวรีย์ทำจากหินสีขาว มีรูปทรงคล้ายเจดีย์แบบจันทิ มีซุ้มสี่ด้านประดับด้วยหินอ่อน ด้านหน้ากับด้านหลังจารึกเหตุผลแห่งการประกาศสงคราม การจัดกำลังรบ ฯลฯ อีกสองด้านจารึกนามทหารผู้สละชีวิตในสงครามโลกครั้งนั้น แต่จุดสำคัญอยู่ที่หน้าบันเหนือซุ้มทั้งสี่ ที่ประดับลายช่อดอกไม้ กินรี และตัวเหรา หรือมกร (สัตว์ในตำนานที่เป็นส่วนผสมของจระเข้ นาค กิเลน) เป็นฝีมือการออกแบบอันวิจิตรตระการตาอย่างที่สุด สะท้อนถึงปรีชาชาญทางการช่างของผู้ออกแบบอย่างที่สุดเช่นกัน จนมีคำกล่าวว่า ไปชมอนุสาวรีย์ทหารอาสาฯ ได้ซึมซับความงามของลายปูนปั้นที่หน้าบัน ก็นับเป็นบุญตายิ่งนักแล้ว
ที่ สำคัญคือ กล่าวได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมบนเกาะรัตนโกสินทร์แห่งเดียว ที่รับอิทธิพลศิลปะแบบศรีวิชัยมาประยุกต์ ทั้งนี้ ทุกวันที่ 11 พฤศจิกายนของทุกปี ซึ่งตรงกับวันที่กองทัพเยอรมันยอมลงนามในสัญญาสงบศึก จะมีพิธีวางพวงมาลารำลึกถึงคุณงามความดีของผู้สละชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1
จากนั้น แนะนำให้ข้ามฝั่งมายังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ซึ่งในอดีตเคยเป็นพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) มาก่อน ช่วงนี้นับเป็นโอกาสดียิ่ง ที่กรมศิลปากรจะเปิดพระที่นั่งสำคัญของวังหน้า อาทิ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ตำหนักแดง และ โรงราชรถหลวง ให้ชมเป็นกรณีพิเศษ ในวันศุกร์ที่ 17-วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน โดยมีการบรรยายและนำชมวันละ 2 รอบ เวลา 16.30 น. และ 17.30 น. จากนั้นเวลา 19.00 น. ยังมีการบรรเลงดนตรีสากลและดนตรีไทย พร้อมชมการแสดงนาฏศิลป์ไทย จากสำนักการสังคีต กรมศิลปากร อาทิ โขน "รามเกียรติ์" ระบำโบราณคดีศรีสยาม รำซัดชาตรี ฟ้อนแพน ฯลฯ โดยบัตรเข้าชมสำหรับชาวไทยราคา 50 บาท ชาวต่างชาติ 220 บาท สอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-2224-1333
เท่า นี้ก็สุดคุ้มแล้ว แต่...ยังไม่หมดเท่านั้น เพราะวันที่ 21 เมษายน 2558 ยังเป็นวันครบรอบ 233 ปี แห่งการสถาปนากรุงเทพมหานคร หรือกรุงรัตนโกสินทร์ กระทรวงวัฒนธรรมจึงจัดงานเฉลิมฉลอง ในนาม "ใต้ร่มพระบารมี 233 ปี กรุงรัตนโกสินทร์" ระหว่างวันที่ 18-21 เมษายน ณ บริเวณท้องสนามหลวง ในงานจะมีกิจกรรมทั้งทางศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม ที่จะนำไปสู่ความรัก ความภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย อาทิ ริ้วขบวนนำเสนอเหตุการณ์สำคัญ ชีวิตความเป็นอยู่ และศิลปวัฒนธรรม ใน 9 รัชสมัยแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พิธีบวงสรวงเทพยดา และดวงพระวิญญาณสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า พิธีบวงสรวงศาลหลักเมือง กิจกรรมไหว้พระ 9 วัด สืบสิริสวัสดิ์ 9 รัชกาล และที่จะขาดไม่ได้ คือการแสดงสินค้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม รวมถึงมหกรรมภาพยนตร์ย้อนยุค รวมทั้งมหกรรมว่าวไทยและว่าวนานาชาติ
ทำ ไปทำมา ผมว่ากรุงเทพฯ ช่วงสงกรานต์ โดยเฉพาะวันที่ 17-19 เมษายน มีสีสันที่น่าสนใจยิ่งนัก ท่านใดจะเปลี่ยนกำหนดการเดินทางกลับมา กทม.เร็วขึ้น จะได้มีโอกาสเที่ยวชมงานและสถานที่สำคัญในเกาะรัตนโกสินทร์ช่วงวันดังกล่าว ก็ไม่ผิดกติกาครับ 

Cr. Msn.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โพสต์แนะนำ

วันนี้พาไปเที่ยวกับราคาที่พักหลักร้อยในหัวหิน จ่ายน้อยกว่า ได้มากกว่า (Cr.Booking and Expedia)

ไปเที่ยวกันเถอะ ราคาที่พักหลักร้อยในหัวหิน มีเยอะแยะไปจ้า ทิพย์อุไรบีชโฮเทล  โรงแรม 2 ดาว   ที่พักนี้ยอมรับที่จะเป็นส่ว...