booking

Booking.com

วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2558

Kantary Hotel Kabinburi โรมแรมสวยอีกหนึ่งที่ ที่ปราจีนบุรี

Conveniently located in downtown Kabinburi, this 12-storey, five-star property features elegantly appointed ‘all-suite’ rooms and outstanding facilities including a luxurious swimming pool, an exemplary fitness centre, executive lounge, state-of-the-art meeting and function rooms and the tasteful and popular California Steak Restaurant, combined with top-quality service.

Kabinburi is a mere 2 hours drive northeast of Bangkok. Famous for its natural beauty, Khmer ruins and ‘Phimai’ traditional boat races, this charming area attracts tourists and business travelers alike. The Kantary Hotel’s central position is a magnet for both local and visiting businessmen because of its high standards, purpose-built accommodation and excellent leisure and dining facilities. This strikingly eye-catching 12-storey property is ‘home away from home’ for many in the business community, providing the right size room combinations, in-room state-of-the-art facilities and excellent service. So whether you're coming to Kabinburi for business or pleasure, for a long or a short stay, there's only one logical choice where to stay – Kantary Hotel and Serviced Apartments.
ACCOMMODATION
Studio Suite
Our modern Studio Suites offer the ultimate in contemporary Asian living with an oversized interior that features a separate living area and complete in-room amenities.
One Bedroom Suite (55 Sq.m.)
Our contemporary Asian styled One Bedroom Suites feature a spacious bedroom and every convenience necessary for a supremely comfortable stay, including a washing machine.
Two Bedroom Suite (88 Sq.m.)
Our top-of-the-line Two Bedroom Suites feature spacious, attractive, modern rooms, a full kitchen and ensuites with a walk-in shower and separate bathtub in both bedrooms.
Room Facilities
  • - Individual temperature control
  • - Widescreen TVs with cable
  • - Stereo with DVD player
  • - Kitchenette with kitchenware and standard appliances
  • - Washing machine (Except Studio Suite )
  • - Tea and coffee making facilities
  • - Walk-in shower and separate bathtub
  • - Bathroom amenity set
  • - Hair dryer
  • - Full range of linen and towels
  • - In-room safety deposit box
  • - Electronic keycard system
  • - In-room WiFi and LAN internet connection
  • - Sweeping living cum dining area (Studio Suite Only )
FACILITIES & SERVICES
Hotel Facilities
  • - Business Center
  • - Conference and meeting rooms
  • - Reading room
  • - 24 hours service: front office and concierge
  • - Constant security
  • - Fire safety: heat & smoke detector and sprinkle system
  • - Limousine service
  • - Housekeeping and laundry service
  • - Fitness Center
  • - whirlpool
  • - Outdoor Swimming pool
  • - Sauna room and steam room
  • - Mini-Mart
  • - Free WiFi internet access in public areas
LOCATION MAP

กรุงเทพฯมีดี 233 ปีรัตนโกสินทร์


© Kom Chad luek กรุงเทพฯมีดี 233 ปีรัตนโกสินทร์

วันนี้ เทศกาลน้ำคงชุ่มฉ่ำทั่วเมืองไทยแล้ว แต่สำหรับกรุงเทพมหานคร สงกรานต์คือช่วงเวลาที่เมืองหลวงแห่งนี้สงบงามดั่ง "อยุธยายศล่มแล้ว ลอยสวรรค์ลงฤา" จริงๆ จะไปไหนมาไหนก็ปลอดโปร่งโล่งสบาย ไม่มีรถติดให้หงุดหงิดใจ ชาวต่างจังหวัดก็จะอาศัยช่วงนี้แหละ เข้ามาชมความศิวิไลซ์ของกรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ฯ โดยเฉพาะปีนี้ เป็นปีมหามงคล ฉลองพระชนมายุ 5 รอบ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และฉลอง 233 ปี กรุงรัตนโกสินทร์อีกด้วย พื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ส่วนที่เรียกว่า "เกาะรัตนโกสินทร์" จึงคึกคักเป็นพิเศษ ด้วยสีสันงานด้านศิลปวัฒนธรรมที่หลายหน่วยงานจัดขึ้น
ท่าน ใดมากราบสักการะพระแก้วมรกต และชมพระบรมมหาราชวังแล้ว แนะนำให้ไปชม "กำแพงศิลปะเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ฉลองพระชนมายุ 5 รอบ" ที่รั้วชั่วคราวของ สวนสันติพร ถนนราชดำเนินใน หรือในอดีตคือสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลนั่นเอง
ตลอด แนวยาวของรั้วกว่า 200 เมตร มีภาพวาดสีน้ำมันและภาพกราฟิตี้ ผลงานนิสิตนักศึกษาจาก 30 สถาบันทั่วประเทศ มาแสดงศักยภาพในทางสร้างสรรค์อย่างน่าชื่นชมที่สุด ลบคำปรามาสที่ว่า คนหนุ่มสาวยุคนี้ "ดีแต่ก้มหน้าดูจอ เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ" ได้อย่างยอดเยี่ยม เนื้อหาภาพสะท้อนสังคมไทยหลากหลาย อาทิ กระแสความคลั่งไคล้ภาพจิตรกรรมฝาผนัง "กระซิบรักบันลือโลก" (ปู่ม่านย่าม่าน) ที่วิหารวัดภูมินทร์ จ.น่าน ทำให้นักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จำลองภาพกระซิบรักบันลือโลก มากระซิบกันไกลถึงที่กำแพงศิลปะแห่งนี้ด้วย ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี คือ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กรุงเทพมหานคร มหาวิทยาลัยศิลปากร ธนาคารออมสิน ฯลฯ ที่ช่วยกันทำโครงการดีๆ เช่นนี้
จาก นั้น ชวนท่านข้ามฝั่งมายังท้องสนามหลวงด้านทิศเหนือสุด มีอนุสาวรีย์แห่งหนึ่งตั้งอยู่บนเกาะรูปสามเหลี่ยม เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ใกล้โรงละครแห่งชาติ คือ อนุสาวรีย์ทหารอาสาสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งมักถูกมองข้ามไป ทั้งๆ ที่มีความน่าสนใจในทางศิลปะ เพราะอนุสาวรีย์ขนาดเล็กที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเพื่อบรรจุอัฐิของทหารอาสาสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี พ.ศ.2462 นี้ ออกแบบโดยนายช่างใหญ่แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ หลังจากออกแบบพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร ถวายล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 เป็นงานชิ้นเอก (มาสเตอร์พีซ) แล้ว ท่านได้ทรงออกแบบอนุสาวรีย์ทหารอาสา โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเจดีย์ศิลปะศรีวิชัย ที่เรียกว่า "จันทิ" ซึ่งมีอยู่มากบนเกาะชวา อินโดนีเซีย รวมถึงพระบรมธาตุไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ที่จัดเป็นศิลปสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัยเช่นเดียวกัน
โครง สร้างของอนุสาวรีย์ทำจากหินสีขาว มีรูปทรงคล้ายเจดีย์แบบจันทิ มีซุ้มสี่ด้านประดับด้วยหินอ่อน ด้านหน้ากับด้านหลังจารึกเหตุผลแห่งการประกาศสงคราม การจัดกำลังรบ ฯลฯ อีกสองด้านจารึกนามทหารผู้สละชีวิตในสงครามโลกครั้งนั้น แต่จุดสำคัญอยู่ที่หน้าบันเหนือซุ้มทั้งสี่ ที่ประดับลายช่อดอกไม้ กินรี และตัวเหรา หรือมกร (สัตว์ในตำนานที่เป็นส่วนผสมของจระเข้ นาค กิเลน) เป็นฝีมือการออกแบบอันวิจิตรตระการตาอย่างที่สุด สะท้อนถึงปรีชาชาญทางการช่างของผู้ออกแบบอย่างที่สุดเช่นกัน จนมีคำกล่าวว่า ไปชมอนุสาวรีย์ทหารอาสาฯ ได้ซึมซับความงามของลายปูนปั้นที่หน้าบัน ก็นับเป็นบุญตายิ่งนักแล้ว
ที่ สำคัญคือ กล่าวได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมบนเกาะรัตนโกสินทร์แห่งเดียว ที่รับอิทธิพลศิลปะแบบศรีวิชัยมาประยุกต์ ทั้งนี้ ทุกวันที่ 11 พฤศจิกายนของทุกปี ซึ่งตรงกับวันที่กองทัพเยอรมันยอมลงนามในสัญญาสงบศึก จะมีพิธีวางพวงมาลารำลึกถึงคุณงามความดีของผู้สละชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1
จากนั้น แนะนำให้ข้ามฝั่งมายังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ซึ่งในอดีตเคยเป็นพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) มาก่อน ช่วงนี้นับเป็นโอกาสดียิ่ง ที่กรมศิลปากรจะเปิดพระที่นั่งสำคัญของวังหน้า อาทิ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ตำหนักแดง และ โรงราชรถหลวง ให้ชมเป็นกรณีพิเศษ ในวันศุกร์ที่ 17-วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน โดยมีการบรรยายและนำชมวันละ 2 รอบ เวลา 16.30 น. และ 17.30 น. จากนั้นเวลา 19.00 น. ยังมีการบรรเลงดนตรีสากลและดนตรีไทย พร้อมชมการแสดงนาฏศิลป์ไทย จากสำนักการสังคีต กรมศิลปากร อาทิ โขน "รามเกียรติ์" ระบำโบราณคดีศรีสยาม รำซัดชาตรี ฟ้อนแพน ฯลฯ โดยบัตรเข้าชมสำหรับชาวไทยราคา 50 บาท ชาวต่างชาติ 220 บาท สอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-2224-1333
เท่า นี้ก็สุดคุ้มแล้ว แต่...ยังไม่หมดเท่านั้น เพราะวันที่ 21 เมษายน 2558 ยังเป็นวันครบรอบ 233 ปี แห่งการสถาปนากรุงเทพมหานคร หรือกรุงรัตนโกสินทร์ กระทรวงวัฒนธรรมจึงจัดงานเฉลิมฉลอง ในนาม "ใต้ร่มพระบารมี 233 ปี กรุงรัตนโกสินทร์" ระหว่างวันที่ 18-21 เมษายน ณ บริเวณท้องสนามหลวง ในงานจะมีกิจกรรมทั้งทางศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม ที่จะนำไปสู่ความรัก ความภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย อาทิ ริ้วขบวนนำเสนอเหตุการณ์สำคัญ ชีวิตความเป็นอยู่ และศิลปวัฒนธรรม ใน 9 รัชสมัยแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พิธีบวงสรวงเทพยดา และดวงพระวิญญาณสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า พิธีบวงสรวงศาลหลักเมือง กิจกรรมไหว้พระ 9 วัด สืบสิริสวัสดิ์ 9 รัชกาล และที่จะขาดไม่ได้ คือการแสดงสินค้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม รวมถึงมหกรรมภาพยนตร์ย้อนยุค รวมทั้งมหกรรมว่าวไทยและว่าวนานาชาติ
ทำ ไปทำมา ผมว่ากรุงเทพฯ ช่วงสงกรานต์ โดยเฉพาะวันที่ 17-19 เมษายน มีสีสันที่น่าสนใจยิ่งนัก ท่านใดจะเปลี่ยนกำหนดการเดินทางกลับมา กทม.เร็วขึ้น จะได้มีโอกาสเที่ยวชมงานและสถานที่สำคัญในเกาะรัตนโกสินทร์ช่วงวันดังกล่าว ก็ไม่ผิดกติกาครับ 

Cr. Msn.co.th

วันเสาร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2558

ไมอามี่ ที่รัก Miami So Sweet :)


© Alan Schein Photography/Corb 

ไมอามี ที่รัก
มันก็น่าแปลกดีนะ ฉันเป็นคนหนึ่งล่ะ ที่ประกาศปาวๆ ว่าไม่นิยมชมชอบอเมริกา ประเทศอะไรไม่รู้ดูกระด้างๆ
แต่ ฉันคงเป็นพวกปากอย่างใจอย่าง เพราะปากบอกไม่ชอบอเมริกา แต่โทษทีที่เคยสารภาพรักกับนิวยอร์กมาแล้ว และเผลอยิ้มให้ซานฟรานซิสโกแบบไม่รู้ตัว ไหนจะยังสนุกสุดเหวี่ยงที่ลาสเวกัส ขลุกอยู่ในพิพิธภัณฑ์ที่วอชิงตันดีซีได้อย่างลืมโมงยาม นั่งชิลล์ริมทะเลที่บัลติมอร์อย่างสบายอารมณ์ และเคยคารวะกับความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติให้แกรนด์แคนยอนและอลาสกามาแล้ว
ส่วน เมืองไมอามี (Miami) น่ะเหรอ ปากบอกเฉยๆ แต่ใจแอบนึกถึงเมืองนี้อยู่เนืองๆ เมืองสบายๆ แบบนี้ใจแวบคิดถึงได้เรื่อยๆ ไมอามีเที่ยวที่แล้วมาแค่โฉบๆ แต่เที่ยวนี้พูดเลยว่าตั้งใจมาก
แถม เที่ยวนี้สบายกว่าครั้งก่อนเยอะ จากที่เคยบินอ้อมโลกถึง 4 ต่อ แต่เที่ยวนี้บินสบายๆ ใช้เวลาน้อยกว่าด้วยสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ส (www.qatarairways.com ) จากกรุงเทพไปตั้งหลักที่โดฮาก่อน พักยืดเส้นยืดสายซัก 2 ชั่วโมง จากนั้นบินตรงรวดเดียวจากโดฮาถึงไมอามีเลย สิริรวมแล้วใช้เวลาแค่ 20 กว่าชั่วโมงเท่านั้น

และ ในช่วงพักที่สนามบินฮามัด อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์พอร์ต ฉันก็พบว่า สนามบินนี้ช่างอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารอะไรเช่นนี้ มีทั้งสนามเด็กเล่น มีมุมดูทีวี มีมุมอินเทอร์เน็ตที่มาพร้อมกับกองทัพคอมพิวเตอร์ตั้งไว้ให้กลางสนามบินเลย อะไรไม่ดีเท่ามีฟรีไวไฟ และภายในสนามบินนี่เหมือนช็อปปิ้งมอลล์มาก เพราะมีร้านรวงและแบรนด์ดังๆ รวมถึงคาเฟ่และร้านอาหารเพียบเลย ต่อให้ต้องใช้เวลาต่อเครื่องนานแค่ไหนก็ไม่น่าเบื่อ
พูด ถึงกาตาร์แอร์เวย์ส เขาไม่ได้มีเที่ยวบินเข้าอเมริกาแค่ที่ไมอามีเท่านั้น แต่ยังสามารถบินเข้าออกได้อีกหลายพอร์ต ไม่ว่าจะเป็นนิวยอร์ก วอชิงตัน ดีซี ชิคาโก ฮุสตัน ใครที่วางแผนจะเที่ยวอเมริกาจะบินเข้าเมืองนั้นออกเมืองนี้ได้ แถมบริการบนเครื่องและที่นั่งก็แสนสบาย
เที่ยว นี้ เป็นเที่ยวที่ฉันตั้งใจไปตีสนิทกับไมอามีอย่างจริงจัง ไม่ได้ฉาบฉวยวันครึ่งวันเหมือนเที่ยวก่อน เลยวางแผนเดินสายทำความรู้จักไมอามีอย่างจริงจัง
แต่ ความที่ไมอามีเป็นเมืองใหญ่ และเป็นเมืองท่องเที่ยว การจะหาเรือนพักก็ไม่ใช่เรื่องกล้วยๆ แต่จะกลัวอะไรในเมื่อฉันมีตัวช่วย เลยคลิกเข้าไปในเว็บไซต์จองที่พักอย่างเอ็กซ์พีเดีย(www.expedia.co.th) เขาแยกโรงแรมในไมอามีเป็นโซนๆ เป็นต้นว่าโซนใกล้สนามบิน โซนดาวน์ทาวน์ โซนชายหาด จะค้นหาโดยไล่ไปตามความนิยม ไล่ตามดาว หรือไล่จากราคาของเรือนพักก็ได้ แต่ดีตรงที่มีแผนที่อธิบายเสร็จสรรพว่าอยู่ตรงไหนของไมอามี

พูด ก็พูดเถอะ ราคาเรือนพักในไมอามีทำให้ฉันค่อนข้างสะเทือนใจมาก แต่ทำไงได้ ก็ต้องเฟ้นหาโรงแรมย่านดาวน์ทาวน์ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป เพราะย่านนี้ถึงไม่ติดชายหาด แต่ก็ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวหลายจุดรวมถึงใครที่จะไปครูซในเรือสำราญต่อ โรงแรมย่านดาวน์ทาวน์ส่วนใหญ่มีบริการรถไปส่งที่ท่าเรือด้วย
แล้วไมอามีก็ต้อนรับฉันด้วยลมหนาวและกลุ่มคนไร้บ้านที่หอบสัมภาระรุงรังนั่งหลบลมอยู่ตามซอกตึก
จะ เมืองไหนๆ ในอเมริกาก็เป็นแบบนี้เสมอ ทั้งซานฟรานฯ ลอสแองเจลิส นิวยอร์ก หรือแม้แต่นครหลวงอย่างวอชิงตัน ดีซี เราจะเห็นกลุ่มคนไร้บ้านนั่งกระจายกันอยู่ทั่วเมือง
ในร้านเบอร์เกอร์ยี่ห้อดังย่านใจกลางเมือง จึงเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ของบรรดาโฮมเลสไปโดยปริยาย
เมื่อยืนอยู่ใจกลางดาวน์ทาวน์ ฉันจึงพบว่า คำเลื่องลือถึงสรรพคุณในแง่มุมต่างๆ ของไมอามีเป็นจริงทุกประการ
ตึก สูงระฟ้าโอบรัดแขกเหรื่อของไมอามีอย่างหลวมๆ ไมอามีไม่ใช่เมืองประเภทเบาสบายบนชายหาด หรือเป็นศูนย์กลางสำหรับนักท่องเรือสำราญแค่นั้นเสียเมื่อไหร่ สถาบันการเงิน ธุรกิจสื่อสาร บริษัทชั้นนำของโลก บริษัทข้ามชาติแบรนด์ดัง ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ทุกอย่างกองรวมกันอยู่ที่ไมอามี
นั้น ก็คงใช่แล้วล่ะ ที่ไมอามีถูกยกย่องให้เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจ และอุตสาหกรรมบันเทิง เพราะรอบตัวของฉันเวลานี้ ล้วนแต่เป็นบริษัทชื่อดังทั้งสิ้น
อะไร ไม่ดีเท่า ไมอามีสะอาดอย่างน่าประหลาด ไม่เสียแรงนิตยสารฟอร์บส์เคยจัดอันดับให้ไมอามีเป็นเมืองสะอาดที่สุดใน อเมริกา เขาไม่ได้วัดกันแค่บนท้องถนนเท่านั้น แต่ดูไปยันเรื่องน้ำท่า พื้นที่สีเขียวในเมือง คุณภาพอากาศ ไปจนถึงเรื่องการจัดการขยะ
ซึ่ง เรื่องอากาศนั้นแทบไม่มีข้อสงสัย เมืองริมทะเลแบบนี้มีอากาศดีเป็นต้นทุนอยู่แล้ว ส่วนเรื่องพื้นที่สีเขียวนี่ก็เหมือนกัน ไมอามีมีสวนให้ชาวเมืองได้มานั่งพักผ่อนหย่อนอารมณ์กันริมทะเลเลย
จะ ติดใจอยู่เรื่องเดียวก็ตรงเรื่องรถติดนี่แหละ จากถนนสวยๆ เคียงทะเลไปเรื่อยๆ พอจะเข้าสู่ย่านชายหาดแถวเซาท์บีชเท่านั้นแหละ ทุกอย่างก็ดูติดหนึบ เพราะย่านริมทะเลไม่มีพวกรถไฟใต้ดินและเมโทรมูฟเวอร์ให้บริการ ใครจะไปเอ้อระเหยแถวริมหาดถ้าไม่นั่งรถเมล์ก็แท็กซี่ไปเลย

ถ้าจะชอบ ฉันคงชอบที่ไมอามีมีพิพิธภัณฑ์กระจายเป็นจุดๆ เอาไว้ให้นักท่องพิพิธภัณฑ์ได้ตระเวนชมกัน
และ ในย่านริมทะเล ก็คงจะมีอยู่ไม่กี่มุมที่ทำให้สดชื่นรื่นปอด เพราะถ้าเป็น ย่านเบย์ไซด์ ก็จะเป็นแนวมุมชิลล์ มุมกินดื่มช็อป และมุมทัวร์ ที่หากใครนึกไม่ออกว่าจะทำอะไรในไมอามีดี ให้มามุมนี้
แต่ ถ้าชอบแนวผึ่งแดดบนชายหาดและปาร์ตี้ ไปโต๋เต๋แถว ย่านเซาท์บีช น่าจะเวิร์กกว่า และที่นั่นดูเหมือนว่าดัชนีความคึกคักจะดีดตัวขึ้นแรงกว่ามุมไหนในไมอามี
ต่อ ให้อากาศเย็นยังห่มไมอามีอยู่ และต่อให้เป็นกลางวันแสกๆ แต่สาวในชุดบิกินีก็ยังคงโยกย้ายส่ายสะโพกกลางคาเฟ่ เพื่อเชื้อเชิญแขกเหรื่อให้เข้าร้าน

ชายหนุ่มที่อพยพมาจากคิวบา ยังคงนั่งมวนซิการ์อย่างไม่สะทกสะท้านต่อเสียงลั่นชัตเตอร์
เสียง เพลงและชีวิตชีวาคงไม่เคยขาดหายไปจากเซาท์บีช เมื่อมันเคล้ากับเสียงคลื่น ไมอามีจึงยังคงเป็นฮอตสปอตและเป็นที่รักของนักเดินทางอยู่เสมอ


ลัดเลาะเมืองน่าอยู่ กับ 10 ที่เที่ยวกระบี่ ร้อนนี้ต้องไป

ลัดเลาะเมืองน่าอยู่ กับ 10 ที่เที่ยวกระบี่ ร้อนนี้ต้องไป 



ลัดเลาะเมืองน่าอยู่ กับ 10 ที่เที่ยวกระบี่ ร้อนนี้ต้องไป

ลัดเลาะเมืองน่าอยู่ กับ 10 ที่เที่ยวกระบี่ ร้อนนี้ต้องไป

1. สระมรกต อ.คลองท่อมสระมรกต สระ น้ำกลางผืนป่าที่ราบต่ำ ที่มีสีเขียวมรกตสมชื่อ โดยมีรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างประมาณ 25 เมตร ยาว 20 เมตร และมีระดับความลึกราว 1.5-2 เมตร ซึ่งเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็ไม่ใช่เพราะคราบตะไคร่เขียวอี๋ หากแต่เป็นแบคทีเรียและสาหร่ายในน้ำซึ่งจะทำให้น้ำมีสีต่างๆ แตกต่างกัน โดยอุณหภูมิของน้ำจะอยู่ที่ 30-50 องศาเซลเซียส และนอกจากนั้นสายน้ำแร่ใต้ดินที่มีอยู่บริเวณนี้ยังทำให้สารแขวนลอยในน้ำตก ตะกอน จึงทำให้น้ำมีความใสมากอีกด้วย ซึ่งถ้าเราเดินขึ้นไปอีกหน่อยก็จะเห็นต้นน้ำที่ไหลเป็นสายลงมารวมกันจนกลาย เป็น สระมรกต แห่งนี้

สระมรกต อ.คลองท่อม © สนับสนุนโดย Monotech สระมรกต อ.คลองท่อม

2. น้ำตกร้อนคลองท่อม อ.คลองท่อมเป็นน้ำพุร้อนแห่ง หนึ่งในบรรดาน้ำพุร้อนอีกหลายแห่งที่กระจัดกระจายอยู่ในบริเวณนี้ น้ำจะไม่ร้อนมาก มีอุณหภูมิประมาณ 40-50 องศาเซลเซียส เป็นน้ำร้อนที่ซึมขึ้นมาจากผิวดินซึ่งมีป่าละเมาะปกคลุมร่มรื่น สายน้ำไหลไปรวมกันตามความลาดเอียงของพื้นที่ บางช่วงมีควันกรุ่นและคราบหินปูนธรรมชาติพอกอยู่เป็นชั้นหนาทำให้เกิด ทัศนียภาพสวยงามแปลกตา โดยเฉพาะบริเวณที่ธารน้ำร้อนไหลลงสู่คลองท่อมลดระดับเกิดเป็นลักษณะคล้าย ชั้นน้ำตกเล็ก ๆ ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 90 บาท

3. เกาะรอกเกาะรอก ตั้งอยู่ในน่านน้ำทะเลกระบี่ ที่เชื่อมต่อทะเลตรัง ลักษณะเป็นสองเกาะเล็กๆ ตั้งคู่กันเป็นเกาะที่มีหาดทรายที่ยาวเหยียด และยังเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์ย่อยของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เป็นเกาะที่มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน สามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์ของเกาะรอกนอกและเกาะรอกใน และ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากอีกจุดหนึ่ง ด้านทิศตะวันออกมีหาดทราย และแนวปะการังเป็นกลุ่มๆ ตามโขดหิน ด้านทิศเหนือของเกาะมีแหลมธงและอ่าวศาลเจ้า ผืนทรายที่เกาะรอกในละเอียดขาวเนียน น้ำทะเลใสเป็นสีเขียวจนมองเห็นปลาหลากสีสัน เป็นความบริสุทธิ์ของธรรมชาติที่ยังไม่มีใครเดินทางมาสัมผัสมากนัก

หาดไร่เลย์ © สนับสนุนโดย Monotech หาดไร่เลย์

4. หาดไร่เลย์หาดไร่เลย์ อยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา– หมู่เกาะพีพี ได้ชื่อว่าเป็นเกาะพีพีแห่งที่ 2 ของจังหวัดกระบี่ เป็นหาดที่งดงามด้วยหินผาสูงตระหง่าน และถือว่าเป็นแหล่งกีฬาปีนผาที่ลือชื่อ ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติต่างให้ความสนใจอยากมาลองสัมผัส ประสบการณ์อันน่าท้าทายนี้ การเดินทางไปเที่ยวไร่เลย์ สามารถนั่งเรือได้ที่ท่าเรือหางยาวที่สะพานเจ้าฟ้า ตัวเมืองกระบี่ ค่าโดยสารประมาณ 100 บาท หรือที่ อ่าวนาง และอ่าวน้ำเมา ค่าเรือโดยสารประมาณ 50 บาท ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10-15 นาที

5. วัดถ้ำเสือ อ.เมืองวัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งชาวต่างประเทศ ทั้งความโดดเด่นของวัดและชื่อเสียงของ “หลวงพ่อจำเนียร” ประธานสงฆ์วัดถ้ำเสือที่มีผู้เลื่อมใสศรัทธามาช้านาน และยังเป็นที่ปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐานที่น่าสนใจอีกด้วย สภาพโดยทั่วไปของวัดถ้ำเสือมีลักษณะ เป็นสวนป่า เป็นโพรงถ้ำ มีเพิงผาและแหล่งถ้ำธรรมชาติ เช่น ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำลอด ถ้ำช้างแก้ว ถ้ำลูกธนู ถ้ำงู ถ้ำเต่า ถ้ำมือเสือ สิ่งสำคัญใน “วัดถ้ำเสือ” นั้นที่ดูเหมือนจะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดและ เป็นที่นิยมชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

อ่าวมาหยา © สนับสนุนโดย Monotech อ่าวมาหยา
6. อ่าวมาหยาอ่าวมาหยา ตั้งอยู่บนเกาะพีพีเล เกาะขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่อ่าวมาหยาเกิด จากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติ จากการพังทลายของหน้าผาที่โอบล้อม แหว่งเป็นเวิ้งอ่าวขนาดเล็กรูปพระจันทร์เสี้ยวที่โอบล้อมด้วยเขาหินปูน อ่าวมาหยา นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์อีกจุดหนึ่งของทะเลกระบี่ ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาพักผ่อนทิ้งตัวทิ้งใจลงบนหาดทรายขาวละเอียดที่เค้าว่ากันว่าละมุนเหมือนผงแป้ง นอนแช่น้ำทะเลใสสีเขียวมรกต สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแวดล้อมซึ่งปกคลุมไปด้วยพันธุ์ไม้ชายทะเล จึงไม่แปลกใจเลยที่ต่างชาติจะยกให้ “อ่าวมาหยา” เป็นทะเลไทยที่สวยติดอันดับโลก

7. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาเป็น หมู่เกาะที่ประกอบไปด้วยอ่าวและหาดทรายที่สวยงามมากมายหลายที่ด้วยกัน อ. เกาะลันตา ประกอบด้วยเกาะสามเกาะเรียงตัวจากเหนือ-ใต้ อันได้แก่ เกาะลันตาน้อย เกาะกลาง และเกาะลันตาใหญ่ และเกาะเล็กๆ อีก มากมายราว 49 เกาะ มีจุดดำน้ำดูปะการังที่สวยงามคือ "หินม่วง หินแดง" บริเวณนี้จะได้พบกับ ภูเขาใต้น้ำจำนวน 2 ลูก โดย “ยอดหินม่วง” จะจมอยู่ใต้น้ำ และ “ยอดหินแดง” จะปรากฎปริ่มๆน้ำ ที่นี่จัดเป็นแหล่งดำน้ำที่ติดอันดับความสวยงามและสมบูรณ์มากที่สุดแห่ง หนึ่งในประเทศไทย และมีสัตว์น้ำขนาดใหญ่ อย่าง วาฬ, ฉลามวาฬ และแมนต้าเรย์ รวมถึงกระเบนราหู กระเบนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

8. ถ้ำผีหัวโต อ.อ่าวลึกถ้ำ ผีหัวโตหรือถ้ำหัวกะโหลก อยู่ห่างจากอุทยานธารโบกขรณี ประมาณ 6 กิโลเมตร และห่างจากถ้ำลอดประมาณ 500 เมตร ที่มีชื่อว่า ถ้ำหัวกะโหลก เนื่องจากแต่เดิมภายในถ้ำเคยมีหัวกะโหลกมนุษย์ ที่มีขนาดโตกว่าปกติ นอกจากนี้ บนผนังถ้ำยังปรากฎภาพเขียนสีก่อนสมัยประวัติศาสตร์จำนวนมาก อาทิ รูปคน รูปสัตว์ ฯลฯ สามารถพายเรือแคนูชมทิวทัศน์ป่าชายเลนที่สงบร่มรื่นได้ ค่าเช่าเรือแคนู 1,200 บาทต่อคน รวมอาหารกลางวัน โดยสามารถเช่าเรือได้จากบริเวณท่าเรือบ่อท่อ

9. ป่าพรุท่าปอม คลองสองน้ำ อ.เมืองป่า พรุท่าปอมเป็นป่าที่มีแหล่งน้ำสวยงามหลายแห่ง มีต้นกำเนิดจากแอ่งน้ำช่องพระแก้ว ซึ่งเป็นน้ำจืดใสสะอาดจนมองเห็นพื้นน้ำและรากไม้ป่าหลุมพี ไหลเอื่อย มาบรรจบกับป่าโกงกางสู่ทะเลซึ่งเป็นน้ำเค็ม จึงได้ชื่อว่าคลองสองน้ำ ภายในมีทางเดินศึกษาธรรมชาติ ทำด้วยไม้ระแนง บางช่วงมีเก้าอี้ไม้  ให้นักนิยมไพรผู้รักธรรมชาติได้นั่งพักชมทัศนียภาพสองข้างทาง บางส่วนอนุญาตให้ลงเล่นน้ำได้ ถึงแม้บริเวณที่เิปิดให้นักท่องเที่ยวที่วไปได้ลงเล่นน้ำจะไม่กว้างนัก แต่ก็มีปบลาสองน้ำที่หาดูในที่อื่นๆ ได้ไใม่ง่ายนัก อย่างเช่น ปลาตะกรับเสือดาว ปลาอมไข่น้ำจืด และปลาปักเป้าเขียว เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ค่าธรรมเนียมสำหรับคนไทย ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็ก 5 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท

10. เกาะปอดะ อ.เขาพนมเกาะ ปอดะเป็นหนึ่งในหมู่เกาะปอดะ อันประกอบด้วยเกาะปอดะ เกาะไก่ เกาะทับ เกาะหม้อ เป็น 4 เกาะเด่น ที่สามารถรวมเป็นโปรแกรมเที่ยวภายในหนึ่งวันได้ นับเป็นรายการท่องเที่ยวยอดนิยมของทะเลกระบี่ เพราะเดินทางสะดวกและค่าใช้จ่ายไม่มาก หากเลือกพักที่อ่าวนางจะสามารถเหมาเรือหางยาวหรือเรือหัวโทงมาเที่ยวชมหาด ทรายสวยๆ ของเกาะเหล่านี้ได้ โดยเกาะปอดะเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด มีหาดทรายขาวยาวกว่ากิโลเมตรทางด้านทิศตะวันออกของเกาะ บรรยากาศร่มรื่นด้วยทิวสน น้ำทะเลใสจนเห็นทรายสีขาวอยู่ใต้น้ำ เกาะปอดะยังเป็นสวรรค์ของนักอาบแดด บริเวณทิศเหนือและทิศตะวันออกก็มีแนวปะการังให้ดำน้ำชมได้ดี นอกจากนี้บริเวณชายหาดยังมีกิจกรรมทางทะเลเช่น พายเรือคายัค คอยให้บริการ หรือจะเล่นน้ำอย่างเดียวก็ได้เช่นกันขอบคุณข้อมูลที่เที่ยว

:
 thai.tourismthailand.org , painaidii.com , sadoodta.com , oceansmile.comเรียบเรียงโดย : Travel MThai

โพสต์แนะนำ

วันนี้พาไปเที่ยวกับราคาที่พักหลักร้อยในหัวหิน จ่ายน้อยกว่า ได้มากกว่า (Cr.Booking and Expedia)

ไปเที่ยวกันเถอะ ราคาที่พักหลักร้อยในหัวหิน มีเยอะแยะไปจ้า ทิพย์อุไรบีชโฮเทล  โรงแรม 2 ดาว   ที่พักนี้ยอมรับที่จะเป็นส่ว...