10 สุดยอดรีสอร์ทแห่งการผจญภัย ไม่ไปไม่รู้ว่าสนุกแค่ไหน

สุดยอดรีสอร์ทแห่งการผจญภัย ตอบรับต่อกระแส “การท่องเที่ยวเชิงผจญภัย”ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะเอเชีย-แปซิฟิกแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมอยู่มากมาย  สำหรับ 10 สุดยอดรีสอร์ทแห่งการผจญภัย 

1. Taj Safari Resort, Mahua Khoti ประเทศอินเดีย 
สัมผัสความตื่นเต้นในการออกท่องป่าซาฟารีที่ให้บริการวันละสองรอบรวมทั้งเพลิดเพลินไปกับการเดินชมธรรมชาติร่วมกับนักอนุรักษ์ธรรมชาติที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างชำนาญและการขี่ช้างในอุทยาน Bandhavgarh Provincial Park ซึ่งเป็นแหล่งที่ยังมีเสืออยู่มากที่สุดในเอเชียใต้ โดยรีสอร์ทมีบ้านพักหรูหรา 12หลังไว้คอยบริการเพื่อการพักผ่อนอันสะดวกสบายและเที่ยวชมความมหัศจรรย์ของอินเดีย 

2. Amankora ประเทศภูฏาน 
AmanResorts ให้บริการบ้านพักหรู 5 หลังโดยแต่ละหลังมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไปตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะแก่การเดินเที่ยวชมประเทศภูฏานที่มีภูมิประเทศอันงดงามและน่าค้นหานอกจากนี้แขกที่เข้าพักยังสามารถเลือกกิจกรรมและรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยที่น่าตื่นตาตื่นใจหลากหลายชนิดได้ตามความต้องการ

 
3. โฟร์ ซีซั่นส์ รีสอร์ท สามเหลี่ยมทองคำประเทศไทย 
สัมผัสการผจญภัยตั้งแต่เริ่มต้น การเดินทางโฟร์ ซีซั่นส์ รีสอร์ทตั้งอยู่ในทำเลที่สามารถเดินทางไปถึงได้ด้วยเรือเท่านั้น พบกับบ้านพักหรูหรา 15 หลังในดินแดนบริเวณสามเหลี่ยมทองคำของไทยที่เรียกว่าเป็นใจกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ติดกับชายแดนประเทศพม่าและลาว ซึ่งนับว่าเป็นสุดยอดของสถานที่แห่งการผจญภัยที่อุดมไปด้วยกิจกรรมตื่นเต้นระทึกใจมากมายเช่น การขี่ช้าง การเดินไต่เขา และการล่องแม่น้ำ
 

 
4. ElaphantSoft Park Lodge บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย 
อิ่มอร่อยกับมื้อเช้ารสเลิศคลุกเคล้าไปกับทัศนียภาพและเสียงร้องของบรรดาช้างอินเดียขณะเดินลงไปอาบน้ำที่ทะเลสาบในยามรุ่งอรุณนอกจากนี้ แขกผู้เข้าพักยังมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเหล่าสัตว์โลกตัวใหญ่มากยิ่งขึ้นเพียงเดินลัดเลาะผ่านป่า Taro จากนั้น ก็ไปช่วยควาญช้างอาบน้ำ ให้อาหาร และเลี้ยงดูพวกมัน พร้อมทั้งเรียนรู้วิถีชีวิตของสัตว์ขนาดมหึมาเหล่านี้

5. Freedom InnNiseko ประเทศญี่ปุ่น 
โรงแรมที่เงียบสงบแห่งนี้เมื่อมองออกไปจะเห็นวิวทิวทัศน์อันตระการตาของภูเขา ลำธาร และยอดภูเขาไฟ ตั้งอยู่ในเมืองฮานาโซโนะอันสวยงามในจังหวัดฮอกไกโด และอยู่ใกล้กับจุดเล่นสกี Hanazono 308 Base Lodge และ รถกระเช้าNiseko United Ski liftsที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อไม่นานมานี้และในฤดูหนาวแขกที่เข้าพักยังจะได้พบกับหลากหลายกิจกรรมกีฬาท่ามกลางหิมะ เช่น การเล่นสกีสโนว์บอร์ด สโนว์เทร็ค สโนว์โมบิล และขี่ม้าไว้บริการรวมถึงผ่อนคลายความหนาวเหน็บโดยการแช่บ่อน้ำพุร้อนตั้งอยู่ตรงข้ามภูเขาได้อีกด้วย

6. ElNido Resorts Lagen Island Palawan ประเทศฟิลิปปินส์ 
รีสอร์ทอันงดงามแห่งนี้สมบูรณ์ด้วยธรรมชาติให้เที่ยวชมโดยมีเกาะขนาดใหญ่และเล็กทั้ง45 แห่งที่ตั้งอยู่รายล้อมและยังมีครบทุกรูปแบบการผจญภัยทั้งเดินเขา ปีนเขาและดำน้ำ โดยเกาะ Miniloc นับเป็นสถานที่ชั้นยอดสำหรับการดำน้ำแบบสน็อกเกิ้ลชมฝูงปลาบริเวณนอกชายฝั่ง ที่สำคัญพลาดไม่ได้กับการพายเรือคายัคไปรอบๆ ทะเลสาบใหญ่และเล็ก หรือจะเลือกเดินทางไปเกาะ Cadlao เพื่อชื่นชมความงามของทะเลสาบที่บริเวณน้ำตก Nagkalit-kalit

7. เรือนแพจังเกิลราฟท์จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย 
เรือนแพธรรมชาติบนลำน้ำแควแห่งนี้จะช่วยปลดปล่อยความกังวลใจทั้งหมดให้ล่องลอยไปกับสายน้ำสนุกสนานไปกับการพายเรือแคนูหรือขี่ช้างสำรวจถ้ำและน้ำตกในละแวกใกล้เคียงพร้อมทั้งดื่มด่ำกับความเงียบสงบและน่าทึ่งของธรรมชาติโดยรอบ นอกจากนี้แขกของรีสอร์ทยังจะได้ทำความรู้จักกับคนท้องถิ่นชนเผ่ามอญอย่างใกล้ชิดทั้งชมการแสดงฟ้อนรำ และเข้าร่วมสัมผัสกับประเพณีท้องถิ่นต่างๆ
 

8. BamurruPlains Hotel, Kakadu ประเทศออสเตรเลีย 
โรงแรมที่มีห้องพักในรูปแบบเต็นท์สวีทหรูจำนวน 9 หลังนี้ซ่อนตัวอยู่ในทุ่งหญ้าสะวันนาของออสเตรเลียจึงเป็นสถานที่พักสำหรับการปลีกวิเวกจากความวุ่นวายของชีวิตสมัยใหม่และปราศจากโทรศัพท์หรือโทรทัศน์
มีเพียงพนักงานที่เอาใจใส่ไว้คอยบริการที่นี่จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับธรรมชาติในช่วงระยะเวลาสั้นๆและทิ้งความวุ่นวายของไลฟ์สไตล์ในเมืองไว้เบื้องหลัง

9. LaoSpirit หลวงพระบาง ประเทศลาว 
รีสอร์ทที่เป็นมิตรกับธรรมชาติแห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำขานท่ามกลางภูเขาในประเทศลาว ให้บริการห้องสไตล์เฟรนช์ โคโลเนียลที่ได้รับการปรับโฉมใหม่เพื่อให้เป็นที่พักในสถานที่เดินป่าที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขอเชิญมาดื่มด่ำกับธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์และการต้อนรับขับสู้อันอบอุ่นจากชาวลาวท้องถิ่น
 

  

10. โรงแรมหินตกริเวอร์แคมป์ ช่องเขาขาด จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย 
หลีกหนีความหรูหราในสังคมเมืองและเลือกพักผ่อนในเต็นท์สไตล์อนุรักษ์ธรรมชาติ20 หลังที่มองออกไปเห็นแม่น้ำแคว โดยรีสอร์ทแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากกรุงเทพเพียง 2ชั่วโมงและเป็นสถานที่พักอันลงตัวสำหรับการเที่ยวชมถ้ำละว้าและแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย